เมนู

ก็เนื้อความแห่งพระคาถานั้น จักแจ่มแจ้งในปกิณณกวรรคนั้นแล.

บุรพกรรมของจิตตคฤหบดี


เมื่อพระคาสดา ตรัสอย่างนั้นแล้ว, พระอานนทเถระ จึงทูลถาม
บุรพกรรมของจิตตคฤหบดี. ลำดับนั้น พระศาสดา เมื่อจะตรัสแก่พระ-
อานนทเถระนั้น จึงตรัสว่า :-
" อานนท์ จิตตคฤหบดีนี้ มีอภินิหารอันทำไว้แทบบาทมูลของ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์
สิ้นแสนกัลป์ ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัสสป เกิดในสกุล
ของพรานเนื้อ ถึงควานเจริญแล้ว วันหนึ่ง เมื่อฝนตกอยู่ถือหอกไปสู่ป่า
เพื่อต้องการจะล่าเนื้อ ตรวจดูหมู่เนื้ออยู่ เห็นภิกษุรูปหนึ่งนั่งคลุมศีรษะ
ที่เงื้อมเกิดเอง1แห่งหนึ่ง จึงคิดว่า "พระผู้เป็นเจ้ารูปเดียว จักนั่งทำ
สมณธรรม, เราจักนำอาหารมา เพื่อพระผู้เป็นเจ้านั้น" ดังนี้แล้ว รีบไป
สู่เรือน ให้คนปิ้งเนื้อที่ตนนำมาเมื่อวานที่เตาแห่งหนึ่ง ให้หุงข้าวที่เตา
แห่งหนึ่ง เห็นภิกษุเที่ยวบิณฑบาตพวกอื่น รับบาตรของภิกษุแม้เหล่านั้น
นิมนต์ให้นั่งเหนืออาสนะที่จัดแจงไว้ ตระเตรียมภิกษาแล้ว สั่งคนอื่นว่า
" พวกท่านจงอังคาสพระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย แล้ว ใส่ภัตนั้นลงในตะกร้า
ถือเดินไป เลือกเก็บดอกไม้ต่าง ๆ ในระหว่างทาง ห่อด้วยใบไม้ ไป
สู่ที่พระเถระนั่งแล้วกล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ ขอท่านจงทำความสงเคราะห์
แก่กระผมเถิด" ดังนี้แล้ว รับบาตร ให้เต็มด้วยภัตแล้ววางไว้ในมือของ
พระเถระ กระทำการบูชาด้วยดอกไม้เหล่านั้น ตั้งความปรารถนาว่า
1. อกตปพฺภาร เงื้อมที่บุคคลไม่ได้ทำ หมายความว่า เกิดเป็นเองตามธรรมชาติ

" บิณฑบาตอันมีรสนี้ พร้อมด้วยดอกไม้เครื่องบูชา ยังจิตของข้าพเจ้า
ให้ยินดีฉันใด; ขอบรรณาการพันหนึ่ง จงมายังจิตของข้าพเจ้าให้ยินดี
ในที่ที่ข้าพเจ้าเกิดแล้ว ๆ ฉันนั้น, และขอฝนดอกไม้มีสี 5 สีจงตก."
เขาบำเพ็ญกุศลจนตลอดชีพแล้ว เกิดในเทวโลก. ฝนดอกไม้ทิพย์ ตกแล้ว
โดยถ่องแถว ประมาณเพียงเข่า ในที่ที่เขาเกิดแล้ว. แม้ในกาลนี้ ฝน
ดอกไม้ (ทิพย์) ก็ตกในวันที่เขาเกิดแล้ว และเมื่อเขามาในที่นี้ การ
นำบรรณาการมา และการที่เกวียนเต็มด้วยรัตนะ 7 ประการ ก็เป็นผล
แห่งกรรมนั้นแล."
เรื่องพระสุธรรมเถระ จบ.

15. เรื่องพระวนวาสีติสสเถระ [59]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระติสสเถระ
ผู้มีปกติอยู่ในป่า ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " อญฺญา หิ ลาภูปนิสา "
เป็นต้น.

พระสารีบุตรอนุเคราะห์พราหมณ์ผู้ยากจน


เทศนาตั้งขึ้นแล้วในกรุงราชคฤห์. ได้ยินว่า สหายของวังคันต-
พราหมณ์ ผู้บิดาของพระสารีบุตรเถระ ชื่อ มหาเสนพราหมณ์ อยู่ในกรุง-
ราชคฤห์. วันหนึ่ง พระสารีบุตรเถระเที่ยวบิณฑบาต ได้ไปยังประตูเรือน
ของพราหมณ์นั้น เพื่อนุเคราะห์เขา. แต่พราหมณ์นั้น มีสมบัติหมด
เสียแล้ว กลับเป็นคนยากจน. เขาคิดว่า "บุตรของเราจักมาเพื่อเที่ยว
บิณฑบาตที่ประตูเรือนของเรา, แต่เราเป็นคนยากจน. บุตรของเราเห็น
จะไม่ทราบความที่เราเป็นคนยากจน, ไทยธรรมอะไร ๆ ของเราก็ไม่มี,"
เมื่อไม่อาจจะเผชิญหน้าพระเถระนั้นได้จึงหลบเสีย. ถึงในวันอื่น แม้พระ-
เถระได้ไป (อีก). พราหมณ์ก็ได้หลบเสียอย่างนั้นเหมือนกัน. เขาคิด
อยู่ว่า "เราได้อะไร ๆ แล้วนั่นแหละจักถวาย" ก็ไม่ได้ (อะไร ๆ).
ภายหลังวันหนึ่งเขาได้ถาดเต็มด้วยข้าวปายาสพร้อมกับผ้าสาฎกเนื้อหยาบ
ในที่บอกลัทธิของพราหมณ์แห่งหนึ่ง ถือไปถึงเรือน นึกถึงพระเถระขึ้น
ได้ว่า " การที่เราถวายบิณฑบาตนี้แก่พระเถระ ควร."
ในขณะนั้นนั่นเอง แม้พระเถระเข้าฌาน ออกจากสมาบัติแล้ว